
เสาไฟถนนไม่ได้เป็นเพียงแค่เสาเหล็กตั้งตรง แต่ยังเป็นโครงสร้างที่วิศวกรรมออกแบบมาให้สามารถทนทานต่อแรงลม สั่นสะเทือน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านไปนาน ๆ เสาไฟเหล่านี้ก็ยังมีโอกาสได้รับความเสียหายทั้งทางกายภาพและโครงสร้าง ซึ่งอาจนำไปสู่การหยุดชะงักของระบบ และในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด อาจทำให้เสาโค่นลงได้ ปัญหาที่แท้จริงมักจะมาจากคุณภาพของวัสดุและการติดตั้ง ดังนั้นเราจึงได้สรุป 4 ชนิดของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเสาไฟถนน พร้อมกับแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันและยืดอายุการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ
สำหรับเสาไฟถนนที่ทำจากเหล็กกล้า ความเสียหายจากสนิมและการกัดกร่อนถือเป็นภัยเงียบที่อาจทำลายความแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก การกัดกร่อนไม่เพียงแค่ส่งผลต่อความสวยงาม แต่ยังทำให้ความหนาของเหล็กลดลง จนทำให้เสาไม่สามารถรับน้ำหนักได้ตามที่ออกแบบไว้
บริเวณที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ฐานเสาไฟและรอยเชื่อมต่าง ๆ เนื่องจากจุดเหล่านี้มักมีความชื้นสะสมจากน้ำฝนหรือน้ำใต้ดิน ทำให้เกิดสนิมได้ง่าย ถ้าสนิมเข้าไปลึกที่รอยเชื่อม อาจส่งผลให้เกิดการแตกหรือแยกตัวของโลหะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายมาก
การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (การชุบกัลวาไนซ์) เป็นวิธีที่ใช้ในการป้องกันการกัดกร่อน แต่หากชั้นเคลือบนี้ถูกทำลายจากรอยขีดข่วนหรือรอยบุบในระหว่างการติดตั้งหรือใช้งาน ความชื้นจะสามารถเข้าถึงเนื้อเหล็กได้ทันที ดังนั้น การตรวจสอบการชุบกัลวาไนซ์ที่เสื่อมสภาพและการทาสีป้องกันสนิมที่มีคุณภาพจึงมีความสำคัญต่ออายุการใช้งานของเสาไฟ
ความเสียหายประเภทนี้มักเกิดจากอุบัติเหตุทางการจราจร การเฉี่ยวชน หรือการกระทำจากบุคคล ซึ่งส่งผลต่อความสมบูรณ์ของเสาไฟโดยตรง
รอยบุบที่ดูไม่รุนแรงอาจส่งผลให้ความสามารถในการรับน้ำหนักของเสาลดลงได้มาก โดยเฉพาะเสาที่มีความสูงมาก การบิดเบี้ยวของเสาไฟอาจทำให้เกิดความเครียดสะสมในจุดที่ไม่ควรจะเป็น จนในที่สุดอาจนำไปสู่การยุบตัวหรือเสาไฟล้มได้ ผู้ดูแลจึงควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความเสียหายหลังจากเกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟทุกครั้ง
แม้ว่าจะเน้นที่โครงสร้างหลัก แต่ความเสียหายของแขนจับโคมก็อาจส่งผลกระทบได้เช่นกัน หากแขนจับหลุดหรือบิดเบี้ยว จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนมากขึ้นเมื่อมีลมพัด ส่งผลให้เสาหลักต้องแบกรับภาระมากขึ้น ดังนั้นจึงควรตรวจสอบมาตรฐานการผลิตเสาไฟถนนที่ทนทานต่อแรงกระแทกก่อนการตัดสินใจซื้อ
ความเสียหายที่ฐานรากคือความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุด เพราะมันคือรากฐานที่กำหนดความมั่นคงทั้งหมดของเสาไฟถนน ความผิดพลาดในจุดนี้อาจทำให้เสาโค่นลงได้ทั้งต้น
ในพื้นที่ที่มีดินอ่อนหรือการทำงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ฐานรากของเสาไฟถนนอาจเกิดการทรุดตัว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฐานรากและพื้นดินรอบ ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่เสาไฟเอียง หากพบอาการทรุดตัวของเสาไฟ ควรดำเนินการปรับปรุงฐานรากทันทีเพื่อป้องกันการโค่นล้ม
สลักเกลียว (Anchor Bolts) ทำหน้าที่ยึดแผ่นเพลทฐานเสาไฟกับฐานคอนกรีต หากสลักเกลียวเกิดสนิมหรือขันไม่แน่นตามมาตรฐาน จะทำให้การยึดเกาะลดลงอย่างมาก และส่งผลให้เสาไม่สามารถต้านทานแรงลมหรือแรงกระแทกได้
ความล้าของเหล็ก (Material Fatigue) คือความเสียหายที่เกิดจากการรับแรงซ้ำๆ เป็นวงจร เช่น แรงลมที่พัดผ่านอย่างต่อเนื่อง หรือแรงสั่นสะเทือนจากการจราจร
ความล้ามักเริ่มต้นจากการเกิดการแตกร้าวเล็กๆ ในโครงสร้าง โดยเฉพาะในจุดที่มีการเปลี่ยนหน้าตัดของเหล็กหรือมีความเครียดสูง การแตกร้าวเหล่านี้จะขยายตัวเรื่อย ๆ จนโครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้และพังทลายลงในที่สุด
การที่เสาไฟถนนสั่นเมื่อมีลมพัดถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าการออกแบบไม่ได้คำนึงถึงปรากฏการณ์การสั่นพ้อง อาจทำให้วัสดุเกิดความล้าอย่างรวดเร็วและเสาหักได้ การตรวจสอบด้วยวิธี NDT (Non-Destructive Testing) อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นแนวทางที่ควรนำไปใช้ในโครงการขนาดใหญ่
ความทนทานของเสาไฟถนนขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ การจัดการกับความเสียหายทั้ง 4 ข้อนี้—ไม่ว่าจะเป็นการกัดกร่อน, ความเสียหายทางกายภาพ, ปัญหาที่ฐานราก, และความล้าของวัสดุ—คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้โปรเจ็กต์ของคุณปลอดภัยและสามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปี
เพราะแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญในทุกพื้นที่ของชีวิต RICHEST SUPPLY ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์แสงสว่างที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟถนน โคมไฮเบย์ สปอร์ตไลท์ หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์ และเสาไฟ สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @richestsupply หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled
ENRICH
| หน้าที่เข้าชม | 224,236 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 157,801 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 3 ส.ค. 2563 |
| ร้านค้าอัพเดท | 21 พ.ย. 2568 |